ประวัติกล้องดิจิตอล

นับตั้งแต่ที่มีการคิดค้นการถ่ายภาพจนปรากฏภาพถ่ายแรกของโลกที่เรารู้จักและมีหลักฐานมาถึงวันนี้ในปี ค.ศ.1825 หรือเกือบ 200 ปีมาแล้วกล้องถ่ายภาพมี วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงมาอย่างช้าๆ
        เริ่มจากกล้องสำหรับผู้ใช้ทั่วๆไปตัวแรกของโลก คือ Daguerrotype ในปี ค.ศ. 1839 จำหน่ายในราคาประมาณ 50 ดอลล่าร์สหรัฐ
        กระทั่งปี 1900หรือประมาณหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา โกดักก็เปิดตัวกล้องถ่ายภาพรุ่นBrownie สามารถโหลดฟิล์มได้ และมีช่องมองภาพเป็นอุปกรณ์เสริมใส่ไว้ทางด้านบน ราคากล้องรุ่นนี้เพียง 1 ดอลล่าร์สหรัฐได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ก็เป็นกล้องที่หายากมากในปัจจุบันการถ่ายภาพระบบดิจิตอลถือกำเนิดขึ้นเมื่อมีการคิดค้น CCD สำหรับใช้บันทึกในกล้องวิดีโอเมื่อปีค.ศ.1970 ถัดมาอีกเพียงปีเดียวก็มีการส่งข้อความทาง อีเมล์เป็นครั้งแรกของโลกโดย Ray Tomlinsn
        ในปี 1974 ก็มีการใช้เทคโนโลยี CCD ร่วมกับกล้องเทเลสโคบขนาด 8นิ้ว บันทึกภาพดวงจันทร์ด้วยระบบดิจิตอลเป็นภาพแรกที่ความละเอียด 100 x 100 พิกเซล
        ปี 1976 Canonได้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพ 35 มม. SLR ตัวแรกของโลกที่มีไมโครโปรเซสเซอร์รุ่น AE-1 สำหรับการประมวลผลและควบคุมการทำงาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกล้องระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สมบูรณ์แบบในวันนี้ อีกห้าปีต่อมา Pentax ก็ผลิตกล้องรุ่น ME-F ที่ใช้เลนส์ออโต้โฟกัสในกล้อง SLR เป็นตัวแรกของโลก ปี 1981 Sony เปิดตัวกล้องถ่ายภาพที่ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ถ่ายภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ต้องใช้ฟิล์ม แต่ยังไม่ใช่กล้องดิจิตอล เป็นเพียงกล้องโทรทัศน์หรือกล้องภาพนิ่งวิดีโอ จัดเก็บภาพด้วยแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ขนาด 2 นิ้ว ใช้ชื่อว่า Sony Mavica (Megnetic Video Camera) บันทึกด้วย CCD ให้ภาพที่มีความละเอียด 570 x 490 พิกเซล (ขนาดของชิพคือ 10 x 12 มม.) ความไวแสงเทียบเท่า ISO 200 ปี
        1984 Canon ได้ทดลองใช้กล้องภาพนิ่งวิดีโอระดับมืออาชีพเป็นครั้งแรกในโอลิมปิกที่ลอสแองเจอลิส หลังจากบันทึกภาพแล้วมีการส่งภาพกลับไปที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านทางสายโทรศัพท์ในเวลาที่ต่ำกว่า 30 วินาที จากนั้นก็พิมพ์เป็นภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ Yomiuri ซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายในขณะที่การแข่งขันยังไม่เสร็จสิ้น สร้างความฮือฮาได้เป็นอย่างมาก
        ปี 1986 หรืออีกสองปีต่อมา Canon ก็ผลิตกล้องภาพนิ่งวิดีโอออกจำหน่ายให้กับนักถ่ายภาพมืออาชีพเป็นครั้งแรก ในรุ่น RC-701 โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ช่างภาพข่าวเป็นหลัก ช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น โดยชื่อรุ่น RC มาจากคำว่า Realtime Camera หรือกล้องที่ได้ภาพทันทีนั่นเอง มีเลนส์ซูมขนาด 11-66 มม. f/1.2 ราคา 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่ถ้ารวมอุปกรณ์รับส่งภาพทางสายโทรศัพท์ครบชุดจะมีราคา 27,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ขนาดของ CCD คือ 6.6 x 8.8 มม. ความละเอียด 187,200 พิกเซล ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็ว 1-10 เฟรม/วินาที ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้และกล้องรุ่นนี้ได้ถูกช่างภาพข่าว Tom Dillon ของหนังสือพิมพ์ USA Today ถ่ายภาพและตีพิมพ์เป็นภาพข่าวสีภาพแรกที่บันทึกด้วยกล้้องภาพนิ่งวิดีโอ โดยบรรณาธิการภาพข่าวได้เห็นภาพดังกล่าวหลังจากที่ช่างภาพบันทึกไปแล้วในเวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น ทางสมาคมนักข่าวของอเมริกาเล็งเห็นประโยชน์ของภาพดิจิตอลกับงานข่าวจึงวางแผนที่จะเปลี่ยนการส่งภาพข่าวจากระบบอะนาล็อกมาเป็นดิจิตอลเพราะช่วยประหยัดเวลาในการส่งภาพได้ถึง 90% ทีเดียว
        ปี 1987 Minolta ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการออกแบบดิจิตอลแบคสำหรับใช้กับกล้องรุ่น 7000 และ 9000 ซึ่งเป็นกล้องใช้ฟิล์ม โดยใช้ CCD รับภาพขนาด 2/3 นิ้ว ความละเอียด 640 x 480 พิกเซลในชื่อรุ่น Minolta SB-70S และSB-90S
        นับจากนั้นเป็นต้นมาผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างให้ความสนใจและผลิตกล้องถ่ายภาพนิ่งวิดีโออย่างต่อเนื่อง เช่น โอลิมปัสผลิตกล้องรุ่น V-100 ในปี 1987 ใช้ CCD ขนาด 1/2 นิ้ว ความละเอียด 360 K เลนส์ซูม 9-27 มม. f/2.8 ความไวแสง ISO 100 ปี 1988 Fujifilm ผลิตกล้องภาพนิ่งวิดีโอ รุ่น DS-1P ที่จัดเก็บภาพด้วยการ์ดดิจิตอลแทนที่แผ่นฟล็อปปี้ดิสก์เป็นครั้งแรกด้วย CCD ความละเอียด 400K เลนส์ 16 มม. f/5.6         ต่อมาภาพอิเล็กทรอนิกส์เริ่มมีความละเอียดที่สูงขึ้น จึงมีการกำหนดมาตรฐานของไฟล์ภาพเพื่อให้มีขนาดที่เล็กลง ใช้เนื้อที่การจัดเก็บน้อยและส่งภาพได้รวดเร็วขึ้น โดย Joint Photographic Expert Group มีชื่อย่อว่า JPEG กำหนดมาตรฐานนี้ในปี 1988
        ปี 1991 NiKon ผลิตกล้องภาพนิ่งวิดีโอแบบ SLR เป็นครั้งแรกในจำนวน 100 ชุด ใช้เซ็นเซอร์ CCD ขนาด2/3 นิ้ว ความละเอียด 380 K ความไวแสง ISO 400-1600 เลนส์ซูม 10-40 มม. f/1.4 หรือเลนส์เม้าท์ F ร่วมกับอะแดปเตอร์ บันทึกภาพแบบโมโนโครมหรือขาวดำ ราคา 20,300 US
        ปี 1990 Logitech FotoMan ได้ผลิตกล้องดิจิตอลเป็นตัวแรกของโลกในชื่อรุ่น Dycam Model 1 บันทึกภาพขาวดำได้ 32 ภาพ เก็บไว้ในหน่วยความจำขนาด 1 MB ที่อยู่ในตัวกล้อง ด้วยเซ็นเซอร์ภาพ CCD ขนาด 1/3 นิ้ว ให้ขนาดภาพ 376 x 240 พิกเซล เลือกฟอร์แมทภาพได้ 2 แบบ คือ TIFF หรือ PICT เลนส์ขนาด 8 มม. มีแฟลชในตัว สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์พีซีเพื่อโหลดภาพได้
        ปี 1990 ในงาน Photokina โกดักได้เรียกความฮือฮาให้กับวงการถ่ายภาพอาชีพ ด้วยการเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่น DCS-100 เป็นกล้อง SLR ที่นำเอา Nikon F3 มาดัดแปลงวางจำหน่ายในปี 1991 ด้วยราคา 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐ กล้องรุ่นนี้ใช้เซ็นเซอร์ CCD ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล ขนาดภาพใหญ่สุด 1024 x 1280 พิกเซล ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือใช้คุณสมบัติของกล้อง F3 ซึ่งเป็นกล้อง SLR ระดับมืออาชีพ ความไวในการรับแสงเทียบเท่า ISO 100 ใช้เลนส์เม้าท์ Nikon ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ปรับโฟกัสแบบแมนนวล การใช้งานต้องต่อสายเคเบิลเข้ากับชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายนอกที่มีหน่วยความจำขนาด 200 MB มีให้เลือก 2 รุ่นคือบันทึกภาพสีและขาวดำ ชุดอุปกรณ์ภายนอกมีปุ่มควบคุมการทำงานและจอมอนิเตอร์ขาวดำ ทำให้เห็นภาพได้ทันทีหลังจากถ่ายภาพไปแล้ว โดยซูมขยายภาพเพื่อดูรายละเอียดต่างๆได้ด้วย
        ปี 1991 โกดัก เปิดตัวดิจิตอลแบคสำหรับกล้องขนาดกลาง Hasselblad เพื่องานถ่ายภาพในสตูดิโอแทนการใช้ฟิล์ม โดยใช้กับกล้องรุ่น 553 ELX ที่มีมอเตอร์ในตัวใช้เซ็นเซอร์ CCD ความละเอียดสูง ขนาดภาพที่ได้คือ 2048 x 2048 พิกเซล ความไวแสง ISO 300 ชัตเตอร์ 1-1/125 วินาที แสดงสีได้ 14 บิต/สี ใช้อินเทอร์เฟสแบบ SCSI 2 เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชรุ่น Quadra
        ปี 1992 โกดัก เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ใหม่อีกครั้งใน Photokina โดยใช้บอดี้ Nikon F801s ที่เป็นกล้องระบบออโต้โฟกัส กล้องรุ่นนี้มีฮาร์ดไดรว์ที่ใช้จัดเก็บภาพในตัว ขนาดจึงดูใหญ่โตโดยมีฐานบอดี้ที่สูงขึ้นมาก มีให้เลือก 2 รุ่น คือ DCS 200C ถ่ายภาพสีและ DCS 200M ถ่ายภาพขาวดำ ความละเอียด 1.54 ล้านพิกเซล ใช้ได้กับเลนส์และแฟลชของ Nikon แต่ต้องคูณทางยาวโฟกัสเพิ่มเนื่องจาก CCD มีขนาดเล็กมาก หากใช้เลนส์ 28 มม. จะเทียบเท่ากับเลนส์ 80 มม.ของกล้อง 35 มม. ความไวแสง ISO 50-400 สำหรับภาพสีและ ISO 100-800 สำหรับกล้องขาวดำ
        ปี 1994 Apple Computer ได้สร้างความตื่นตัวให้กับวงการถ่ายภาพด้วยการเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นแรกของโลกที่ออกแบบสำหรับผู้ใช้ทั่วๆไป ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่กว่ากลุ่มผู้ใช้มืออาชีพมาก ใช้ชื่อรุ่นว่า Apple Quick Take 100 ราคาจำหน่ายเพียง 749 ดอลล่าร์สหรัฐ (เวลานั้นค่าเงินบาทไทยประมาณ 25บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ) ใช้เซ็นเซอร์ CCD ความละเอียด 640 x 480 หรือประมาณสามแสนพิกเซล เปิดชมภาพจากคอมพิวเตอร์พีซีได้เต็มจอมอนิเตอร์พอดี เลนส์มีขนาดคงที่ 50 มม. มีแฟลชในตัวจัดเก็บภาพด้วยหน่วยความจำในตัวกล้อง
        ปีเดียวกันโกดักก็เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ NC 2000 ใช้บอดี้ Nikon F90 ซึ่งเป็นกล้องออโต้โฟกัสระดับมืออาชีพ ออกแบบมาสำหรับนักข่าวโดยเฉพาะ ใช้ CCD ขนาดภาพ 1024 x 1280 พิกเซล ความไวแสงเทียบเท่า ISO 200-1600 ทำให้วงการหนังสือพิมพ์เริ่มเปลี่ยนมาใช้กล้องดิจิตอลกันขนานใหญ่ โดยจำหน่ายในราคา 16,950 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อมาก็เปลี่ยนไปใช้บอดี้ Nikon F90x ใช้ชื่อรุ่นว่า DCS 420 ค่ายฟูจิฟิล์มก็ร่วมมือกับนิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR เช่นกันในชื่อรุ่น Fuji DS-505 และ DS-515 ส่วน Nikon ใช้ชื่อรุ่น E2 และ E2S ใช้ CCD ขนาด 2/3 นิ้ว ขนาดภาพ 1280 x 1000 พิกเซล ความไวแสงสูงสุด ISO 800 และ 1600
        ปี1995 โกดักได้ปลุกกระแสทางด้านภาพดิจิตอลครั้งใหญ่ โดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ของโกดักที่เรียกว่า โฟโต้ซีดี เพียงส่งฟิล์มเนกาตีฟสีหรือฟิล์มสไลด์สีไปสแกนลงแผ่นซีดีรอม ก็จะได้ภาพดิจิตอลสำหรับนำมาใช้งานทันที ซึ่งในปีเดียวกันนิตยสารชัตเตอร์ฯ ก็ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ โฟโต้ซีดี ด้วยการนำภาพจากฟิล์มสไลด์ไปทำเป็นโฟโต้ซีดีแล้วนำภาพมารีทัชซ้อนฉากหลังเข้าไป จากนั้นตีพิมพ์เป็นภาพหน้าปก